ก็แคจีวร … เลิกสับสนกันเสียที !
ช่วงที่ผ่านมาในสื่อ มีการโจษขานและพูดถึงกันมากเกี่ยวกับสามเณรตุ๊ดเกย์ห่มจีวรไม่เหมาะสม บางฅนบอกว่าเป็นการห่มคล้ายกิโมโนของญี่ปุ่น บางฅนก็บอกว่าเป็นการห่มคล้ายชุดประจำชาติเกาหลี หลาย ๆ ฅนรู้สึกเบื่อหน่ายไปกับพฤติกรรมของเด็กตุ๊ดเกย์ที่เข้าไปบวชเป็นสามเณรแล้วประดิษฐ์การห่มจีวรที่ดูไม่เหมาะสมกับสมณะสารูป จนรู้สึกว่าตุ๊ดเกย์ที่เข้าไปบวชมักทำเรื่องไม่เหมาะสมอยู่เรื่อย
ผมอยากให้คุณผู้อ่านดูภาพการห่มจีวรของสามเณรที่ถูกพูดถึงกับการห่มจีวรของ ‘ครูบาศรีวิชัย’ ที่ผมนำภาพมาประกอบเปรียบเทียบกันให้ดูนะครับ คุณผู้อ่านดูแล้วคิดยังไงครับ ?
ผมมองว่าการห่มจีวรแบบที่สามเณรกำลังห่มและกำลังเป็นที่โจษขานกันอยู่ในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องผิดพระธรรมวินัย ถ้าหากการห่มจีวรแบบสามเณรเป็นเรื่องผิดละก็ การห่มจีวรแบบท่านครูบาศรีวิชัยก็ต้องผิดไปด้วย เพราะเป็นการห่มแบบเดียวกัน คือส่วนของชายผ้าเหลืองจะคาดปิดหน้าอกแทนที่จะแฉลบเฉียงขึ้นไหล่ซ้ายเหมือนอย่างที่ ‘พระภิกษุกระแสหลัก’ มักจะห่มกัน
การห่มจีวรแบบสามเณรตุ๊ดเกย์ก็คือการห่มจีวรแบบที่พระล้านนารุ่นเก่า ๆ ท่านก็เคยห่มกันมาแล้ว ไม่เชื่อก็ลองไปค้นหาภาพเก่า ๆ ในยุคสมัยของครูบาศรีวิชัยมาดูก็จะพบว่ามีสามเณรรูปอื่น ๆ ก็ห่มจีวรแบบสามเณรตุ๊ดเกย์ที่ถูกพูดถึงเช่นเดียวกัน
จริง ๆ แล้วการห่มจีวรของพระภิกษุแบบที่ห่มกันอยู่ทั้ง ‘ห่มดอง’ ‘ห่มคลุม’ หรือ ‘ห่มเฉวียงบ่า’ ล้วนแล้วแต่เป็นการห่มที่ผ่านการเปลี่ยนผ่านไปตามยุคสมัย สมัยพุทธกาลดั้งเดิมจริง ๆ พระพุทธเจ้าและพระสาวกก็ไม่ได้ห่มจีวรจับจีบกันประณีตบรรจงขนาดนี้ แค่เพียงคลุมกายเฉย ๆ แล้วเที่ยวจาริกไปโปรดสัตว์
ดังนั้น ชาวพุทธที่ดีไม่น่าจะเอาเรื่องการห่มจีวรมาเป็นปัญหาคาใจ เพราะเป็นเพียงการรูปแบบการปกปิดร่างกายของนักบวช ขอเพียงห่มจีวรแลดูสวยงามไม่เวิกผ้าจนดูรุ่มร่าม หรือปล่อยให้จีวรอับเหงื่อจนส่งกลิ่นเหม็นสาบก็น่าจะเพียงพอแล้ว
และเมื่อเราหันไปดูการห่มจีวรของพระเถระผู้มีชื่อเสียงรุ่นก่อน ๆ ก็จะพบว่าจริง ๆ แล้วการห่มจีวรไม่ได้มีลักษณะการห่มที่ตายตัว สามารถประดิษฐ์ประดอยตกแต่งการห่มให้แตกต่างกันไปได้ ยกตัวอย่างการห่มจีวรของ ‘หลวงปู่บุดดา’ ที่ผมนำภาพมาให้ดูประกอบ
การห่มจีวรจึงไม่มีอะไรถูกไม่มีอะไรผิด เป็นเพียงรูปแบบการปกปิดร่างกายของพระภิกษุสงฆ์ที่แตกต่างกันไปตามยุคสมัย แตกต่างกันไปตามความคิดความเชื่อของท้องถิ่นและบุคคล
ก็แค่จีวรครับ เลิกสับสนกันเสียที !
ส่วนกรณีการใช้ย่ามสีชมพูของสามเณร ก็เป็นเรื่องที่สามารถนำไปพูดต่อกันได้เป็นเรื่องเป็นราวว่าไม่เหมาะสม ทั้ง ๆ ที่สีของย่ามที่พระภิกษุสามเณรสามารถใช้ได้นั้นไม่มีการจำกัดสี ในคณะสงฆ์หรือแม้แต่ในพระธรรมวินัยเองไม่ได้มีการจำกัดสีของย่ามว่าสีใดควรใช้ สีใดไม่ควรใช้ นั่นหมายความว่าสามารถใช้ได้ทุกสี
ในงานฉลองพัดยศ หรืองานฉลองตราตั้งของพระเถระตามวัดต่าง ๆ ก็ยังมีการสั่งทำย่ามสีชมพูออกมาแจกเป็นของที่ระลึกแก่พระภิกษุที่มาร่วมงาน สีชมพูจึงไม่ได้เป็นสีต้องห้ามต่อพระภิกษุสามเณรแต่อย่างใด
ก็แค่สีของย่ามครับ อย่าสับสน !
พงศ์ธรรม ธารา เสาร์ 28 กุมภาพันธ์ 2552
ทัวร์ภาพเชิงสังวาสของเพศเดียวกันในเขต กทม. และ จ.ราชบุรี
ภาพสังวาสของชายกับหญิงเห็นมาเยอะแล้ว . . .
แต่ภาพสังวาสของเพศเดียวกันล่ะ ?
สถาบันฅนนอกมีความภูมิใจ ขอเชิญท่านชม
‘ภาพสังวาสของเพศเดียวกัน’ บนฝาผนังวิหารในเขตกรุงเทพ ฯ และ จ.ราชบุรี
เป็นรายการท่องเที่ยวขนาดวันเดียวจบ (one day trip)
วราภรณ์ วิชญรัฐ (ชื่อเล่น “วารุ” ) เจ้าของงานเขียนวิทยานิพนธ์ชื่อยาวเหยียด . . . ว่า
“เชิงสังวาสของเพศเดียวกันในจิตกรรมฝาผนังแบบแผนประเพณีไทย สมัยรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 1-5)”
“วารุ” อาสาพาพวกเราไปชมภาพจิตกรรมประวัติศาสตร์ของเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ที่ปรากฏอยู่บนฝาผนังในสถาปัตยกรรมไทยโบราณ ในวิหารต่าง ๆ 3 แห่งด้วยกัน
……………………………………………………………………………………………………..
ศิลปะเชิงสังวาส หรือ ราคะศิลป์ที่ปรากฏ เป็นศิลปะที่เกิดขึ้นในช่วงสมัย รัชกาล 1 ถึง รัชกาลที่ 3 และบางแห่งก็อยู่ในช่วงรัชกาลที่ 5
งั้นก็แสดงว่าการมีเซ็กส์กับเพศเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้ล้าสมัย เพราะโบราณกาลก็มีมาแล้ว ดังปรากฏอยู่ตามภาพจิตกรรมฝาผนังให้เราได้ดู ดังกล่าว
ศิลปะเชิงสังวาส มักมีปรากฏอยู่หลายแห่งด้วยกัน เนื่องจากเป็นอิสระทางความคิดของช่างผู้วาดภาพ ภาพเชิงสังวาสจึงเกิดมีขึ้นให้เราได้ศึกษา ด้วยประการฉะนี้
……………………………………………………………………………………………..
ดังนั้นเอง ภาพจิตกรรมฝาผนังจึงมิได้ปรากฏเพียงแค่ภาพสังวาสระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น แต่มีระหว่างหญิงกับหญิง และชายกับชายด้วย
การชมจิตรกรรมฝาผนังครั้งนี้ วารุทำหน้าที่เป็นไกด์พาเราไปชมภาพจิตรกรรมที่พบ 2 แห่งในเขต กทม. และอีก 1 แห่งในเขต จ.ราชบุรี ดังนี้
1. วิหารพุทธไธสวรรค์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
2. อุโบสถ วัดสุวรรณาราม (จรัญสนิทวงศ์ 32)
และ 3. อุโบสถ วัดคงคาราม จ. ราชบุรี
เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในตอนเช้า เวลา 09.00 น. ของวันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 โดยเราจะพบกันที่ด้านหน้าหอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สนามหลวง (หอประชุมที่เขาชอบจัดคอนเสิร์ตกันบ่อย ๆ นั่นแหละครับ) บริเวณนั้นจะมีอนุสาวรีย์เดือนตุลาอันเล็ก ๆ ขนาดกระทัดรัด และมีม้านั่ง ขอให้เรามาเจอกันตรงนั้นแหละครับ
…………………………………………………………………………………………………..
เสาร์ 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 09.00 น.
- พบกันที่หน้าหอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ (ดังกล่าวข้างต้น)
- กิจกรรมแนะนำโครงการ – แนะนำไกด์ – ทำความรู้จักกับผู้เข้าร่วมทุกท่าน
- วารุ พูดถึงวิทยานิพนธ์ที่ตนเขียน
- เดินไปชมภาพสังวาสของเพศเดียวกันในพระที่นั่งพุทธไธสวรรค์
- ผู้เข้าร่วมสามารถแลกเปลี่ยน ซักถาม ได้ในช่วงนี้
เมื่อชมเสร็จ เวลาประมาณ 10.30 น. จัดสรรกันขึ้นรถเพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมภาพสังวาสกันต่อที่ วัดสุวรรณาราม จรัญสนิทวงศ์ 32
- 11.30 น. ถึงวัดสุวรรณาราม ชมภาพสังวาสภายในโบสถ์ พูดคุย แลกเปลี่ยน
- 12.30 น. ออกเดินทางไป วัดคงคาราม จ.ราชบุรี
- แวะรับประทานอาหารระหว่างทาง
- 14.00 น. ถึงวัดคงคาราม จ.ราชบุรี ชมภาพสังวาสภายในโบสถ์ พูดคุย แลกเปลี่ยน
- 15.30 น. เสร็จสิ้นการเที่ยวชม – กล่าวคำอำลา – เดินทางกลับ
- 17.00 น. พามาส่งที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แยกย้ายกันกลับบ้าน
* การเดินทางครั้งนี้ . . . เรามีเพื่อนที่มีรถเก๋ง 4 ที่นั่ง อย่างน้อย 3 คัน ท่านที่สมัครเข้าร่วมการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ โปรดช่วยเหลือค่าน้ำมันร่วมกัน ท่านละ 100-200 บาท (โดยประมาณ) ดังนั้น เราจึงรับผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 15 ท่าน (รวมฅนขับรถด้วยก็เป็น 18 ท่าน)
* หรือหากท่านมีรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถขับรถของท่านมาร่วมเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันได้เลย (หากท่านมีรถยนต์ส่วนตัวมาเอง ก็จะเป็นการดี เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทางท่านอื่น ๆ ที่ไม่มีรถ) กรณีที่ท่านมีรถยนต์มาเอง โปรดแจ้งให้เราทราบล่วงหน้าจะเป็นการดี เพื่อเราจะได้ขยับ-ขยายจำนวนผู้เข้าร่วมได้เพิ่มมากขึ้น
* โปรดเตรียมไฟฉายมาด้วย เพราะภายในโบสถ์จะค่อนข้างมืด
สนใจกรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าที่ คุณวรธรรม 084 667 2871 (กรณีนำรถมาเอง ก็สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขนี้)
@@ กรณีที่ท่านนำรถมาเอง แนะนำให้ไปจอดรถที่ “หน้าประตูทางเข้า ม.ธรรมศาสตร์ ด้านทิศใต้” (ทางเข้าด้าน ถ.พระอาทิตย์) ทางนั้นจะมีที่ว่างให้จอด
- กิจกรรมการเรียนรู้เชิงท่องเที่ยวนี้ เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมอันหลากหลายของ “สถาบันฅนนอก” มีจุดมุ่งหมาย คือ ต้องการให้ฅนรักเพศเดียวกันได้กลับมาศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์รักเพศเดียวกันในท้องถิ่นที่บ้านเรามีอยุ่
- เพื่อให้ฅนรักเพศเดียวกันได้เรียนรู้และมีการเจริญเติบโตด้านในของชีวิต ผ่านการเรียนรู้ภาคประวัติศาสตร์ที่เราสามารถตั้งคำถาม และกล้าวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างท้าทาย
- เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจว่า รักเพศเดียวกัน มีมานานแล้ว
- เพื่อเป็นกิจกรรมพบปะ สังสรรค์ การได้พบปะเพื่อนใหม่ที่มีวิถีชีวิตเหมือน ๆ กัน
- เพื่อลบอคติเก่า – สร้างความเข้าใจใหม่ว่า “รักเพศเดียวกันเป็นเรื่องปรกติ”
- หากท่านมีความสนใจ แต่ยังมีความกังวลและลังเลเรื่องการพบปะกับฅนอื่น ๆ เนื่องจากไม่เคยเข้ากิจกรรมลักษณะนี้มาก่อน หรือมีความไม่มั่นใจใด ๆ ยินดีให้คำปรึกษาผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือข้างต้นครับ
ด้ ว ย พ ลั ง แ ล ะ ศ รั ท ธ า
ส ถ า บั น ฅ น น อ ก
หนัง รัก หลังฤดูหนาว
คงไม่ต้องโฆษณาอะไรมากมายเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกแล้ว
เพราะ 6 ฉากที่ถูกตัดออกไป ทำให้ “แสงศตวรรษ” กลายเป็นหนังที่ถูกโจษขานและร้อนที่สุดในช่วงที่ผ่านมา
แต่ยังไม่พอหากจะบอกว่าหนังของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เรื่องนี้ยังมีประเด็นโฮโมเซ็กช่วลซุกซ่อนอยู่เช่นเคย และดูจะเป็นประเด็นที่ท้าทายกว่าโฮโมเซ็กช่วลเรื่องไหน ๆ ในหนังไทยด้วยกัน
ร่วมกันชม และดื่มด่ำไปกับ แสงศตวรรษ ฉบับสมบูรณ์ พร้อมทั้งร่วมกันพูด คุย เสวนา แลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น หลังชมหนังจบ
วันอาทิตย์ 15 กุมภาพันธ์ 2552
12.30 ลงทะเบียน
ชมหนังตัวอย่างไปพลาง ๆ
13.00 ฉายหนัง แสงศตวรรษ
หนังจบ พูด คุย กันก่อน อย่าเพิ่งรีบกลับ
ณ เรือนร้อยฉนำ สวนเงินมีมา คลองสาน กทม.
ค้นหา ทางไปดูหนัง ที่ click รายการขวามือของเว็ปเพ็จนี้ บรรทัดแรกสุด “ทางไปดูหนัง” A map to go to queer film
ค่าเข้าชม – บริจาค
โทร. 084 667 2871 ในกรณีหลงทาง
SYNDROMES AND A CENTURY is a forbidden film in Siam in 2008. It was cut for 6 scences such as the scence about the monk plays guitar and plays something like a kite. The scence about the doctors drink liquor. The scene about the doctor gets hard and ect.
When this film was shown in April last year (2008) in the theatres. It was shown without those 6 scenes.
For this chance you will see it full version with English Subtitle.
Especially with this film with some context about homosexual which most people can’t see it. So let’s see how would it be ?
On 15 February 2009 at Suan Ngern Mee Maa
12.30 p.m. Register
See some short films.
13.00 p.m. Syndrome and A Century (Complete Version with Thai Subtitle)
Sharing discussion after the film.
Free or Donate for the ticket.
To find the way to see our queer film … just click at the top of the right topic of this page . .. A map to go to Queer Film ….
Call 084 667 2871 in case you lost the way.
Coming Soon
TRANSAMERICA vs GO 6 GO SIX
กะเทยฝรั่ง ปะทะ กะเทยไทย
อยากจัดหนังควบ (ฉายวันเดียว 2 เรื่องเลย) อย่างน้อยคิดว่าคงไม่ถึงกับค่ำมากนัก เพราะอยากรื้อฟื้นวันวานสมัยก่อนที่เราเคยมีโรงหนังชั้นสองบริการฉายหนังควบอยู่ทั่วเมืองเต็มไปหมด แต่เดี๋ยวนี้เราหาโรงหนังชั้นสองแบบนั้นไม่ค่อยเจอแล้ว เพราะโรงหนังควบเวลานี้เจ๊งไปเกือบหมดแล้ว หลงเหลือแต่เพียงโรงหนังจูจุ๊บที่ชอบฉายแต่หนังจูจุ๊บแทน
สาเหตุที่เราฉายหนังควบอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ จริง ๆ แล้วอยากฉายเรื่อง โกหก โก Six (หรืออีกชื่อหนึ่ง โกหก ปลิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหล) เป็นเรื่องหลัก
เพราะหนังเรื่องนี้มีประเด็นที่น่าพูดถึงเกี่ยวกับ กะเทยแปลงเพศที่ต้องเผชิญโชคชะตาในสังคมอยู่หลายประเด็นด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งน่าจะเป็นหนังไทยเรื่องที่ 2 ที่พูดถึงกะเทยแปลงเพศ (เรื่องแรกที่พูดถึงกะเทยแปลงเพศ น่าจะเป็น “เพลงสุดท้าย” เอ๊ะ สมหญิง ดาวราย ในบทบาทของเธอบอกชัดเจนรึเปล่านะ ว่าเธอแปลงเพศ ?)
แต่ด้วยความที่ว่า หากฉายเรื่องนี้เรื่องเดียว มันจะไม่มีอะไรน่าสนใจ ฅนอาจไม่มาดูกัน (เพราะหนังกะเทยมีแนวโน้มว่าฅนจะเริ่มเบื่อกันแล้วสิ) จึงควรจะหาหนังที่เกี่ยวกับกะเทยแปลงเพศ มาฉายควบอีกสักเรื่องนึง
ก็พอดีว่า Transamerica ผ่านเข้ามาในหัวพอดี
Transamerica เป็นเรื่องราวของกะเทยแปลงเพศเหมือนกัน แต่เป็นกะเทยแปลงเพศชาวอเมริกัน ก็เลยประจวบเหมาะ เอาเป็นว่าจับ 2 เรื่องนี้มา ปะ ทะ กัน ซะ เลย ระหว่างกะเทยฝรั่งกับกะเทยไทย
หนังฅนละอารมณ์ (อีกเรื่องหนึ่งออกแนวชีวิต-อีกเรื่องออกแนวตลก) แต่มีฐานความคิดจากเรื่องเดียวกัน อย่างน้อยก็มีหลายประเด็นทีเดียวที่ควรจะเอามาเปรียบเทียบกัน (พูดเหมือนกับจะขึ้นชกกันในสนามมวยในวัดเลย)
………………………………………………………………..
TransAmerica VS TransThai
Queer Film of May
TransAmerica speak English with Thai Sub (DvD)
TransThai speak Thai without any Sub (VCD)
Coming Soon
Film is not Film – หนังไม่ใช่หนัง
หนังไม่ใช่หนัง
ภาพยนตร์ก็ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์
แต่หนังคือศิลปะ
หนังคือการศึกษา
หนังคือองค์ความรู้
หนังคือการสื่อสาร
หนังคือความเคลื่อนไหว
หนังคือการเปลี่ยนแปลงสังคมและความคิด
หนังคือการปฏิวัติ
และเป็นเรื่องการเมืองอย่างที่สุด
ดังนั้น มันจึงไม่ใช่แค่ความบันเทิงความยาว 2 ชั่วโมง
…ฅนนอก… ………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………..
Movie is not just a movie.
Film is not just a film.
But it is an Art.
…..an Education.
……a Knowledge
……a Communication.
…….a Movement.
……a Social Changing.
…….a Thought Changing.
…….a Revolution.
And it really is an Extremely Political.
So it is not just a General Entertainment for 2 hours, ya kno ?
…..Outsiders……
Our Slogan
It’s not importance whether that movie you have seen or not. But it’s importance that people around you is people like us then we have a talk after the movie we have seen.
“ไม่สำคัญว่าหนังเรื่องนั้นเราอาจจะเคยดูมาแล้ว แต่มันสำคัญกว่า ตรงที่เราได้ดูหนัง ท่ามกลางคนหลาย ๆ คน ที่มีอะไรคล้าย ๆ กันกับเรา และเราได้พูดคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้น”